รู้เรื่องระบบ Dante ตอนที่ 2

บริษัท ไลท์ แอนด์ ซาวด์ บิสิเนส ขออนุญาตคัดลอกเอกสารที่ให้ความรู้ เกี่ยวกับระบบ Dante เพื่อเผยแพร่สู่ลูกค้าของบริษัท ผ่านทางบทความ ในเว็บไซต์นี้ เพื่อให้เป็นความรู้ และความเข้าใจในระบบ ของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อไป
เทคโนโลยี Dante
ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม Audinate ได้สร้าง Dante ซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อดิจิตอลแบบหลายช่องสัญญาณที่ไม่มีการบีบอัด เทคโนโลยีที่มีเวลาแฝงและการซิงโครไนซ์ใกล้ศูนย์ Dante เป็นโซลูชันเครือข่ายเสียงที่เป็นที่นิยม ถูกนำไปใช้โดยผู้ผลิต AV pro-audio มากกว่าเทคโนโลยีระบบเครือข่ายอื่น ๆ การทำงานร่วมกันไม่ได้ เป็นความฝันในอนาคต แต่เป็นความจริงทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เปิดใช้งาน Dante หลายร้อยรายการมีให้บริการจากทั่วโลก ผู้ผลิตชั้นนำช่วยให้คุณสามารถผสมอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายราย ประหยัดและหลากหลาย สายเคเบิลเส้นเดียวทำได้ทั้งหมด Dante จึงมาแทนที่สายเคเบิลแบบอะนาล็อก หรือสายมัลติคอร์ ที่มีขนาดใหญ่ และหนักหน่วง ราคาแพง แทนที่ด้วยสายเคเบิล CAT5e, CAT6 หรือไฟเบอร์ออปติกที่หาได้ง่ายสำหรับโซลูชันที่เรียบง่ายน้ำหนักเบาและประหยัด
Dante รวมสื่อและการควบคุมสำหรับระบบทั้งหมดของคุณผ่านเครือข่าย IP มาตรฐานเดียวคุณภาพที่โดดเด่น เนื่องจากเสียงถูกส่งผ่านระบบดิจิทัล คุณไม่ต้องกังวล กับความท้าทายแบบอะนาล็อกทั่วไปของสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ crosstalk ระหว่างสายเคเบิลหรือความเสื่อมของสัญญาณในสายเคเบิลยาว ๆ ติดตั้งง่ายใช้งานง่าย การกำหนดเส้นทางสัญญาณและการกำหนดค่าระบบด้วย Dante นั้นรวดเร็วง่ายและยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ Dante Controller เป็นแอปพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ทรงพลังที่จัดการอุปกรณ์บนเครือข่าย การตั้งค่าเครือข่าย Dante มักเป็นเพียงเรื่องของการเสียบอุปกรณ์เข้ากับสวิตช์อีเธอร์เน็ตและเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย อุปกรณ์ Dante ทั้งหมดถูกค้นพบและแสดงโดยอัตโนมัติใน Dante Controller ดังนั้นคุณจึงสามารถเปิดใช้งานได้ในไม่กี่วินาที ด้วยตัวควบคุม Dante คุณสามารถแก้ไขชื่ออุปกรณ์และป้ายกำกับช่องควบคุมตัวอย่างได้อย่างง่ายดาย
ส่วนอีกตัวหนึ่งที่ ออดิเนท เขาทำออกมาเป็น license อันนี้ต้องซื้อ หรือคนที่ซื้อบอร์ดไปเขาก็จะแถมแผ่นเหลืองๆ ไว้ให้ ตัวนี้ทำหน้าที่ให้คอมพิวเตอร์แปลงมาเป็นซาวด์การ์ด ตัวนี้เมื่อใส่ลงไปในคอมพิวเตอร์ปุ๊บมันจะไปเกาะสิ่งที่เรียกว่า ASIO หรือว่า Core Audio พวกนี้จะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถบันทึกได้พร้อมกัน 64 แทร็ก แล้วสามารถเพลย์แบ็กได้ 64 แทร็กเหมือนกัน สำหรับคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง... ถามว่าเน็ตเวิร์กหนึ่งวงสามารถใช้คอมพิวเตอร์สองเครื่องอัดได้มั้ย... ตอบว่าได้... มันเป็นลักษณะการแชร์แพ็กเกจไงครับ มันไม่ใช่การต่อสายเข้าหากันแล้วสัญญาณจะดร็อป เราไม่ได้ทำสเน็คเคเบิล หรือเราไม่ได้ทำ Y เคเบิล เพราะฉะนั้นสัญญาณจะไม่ดร็อป ข้อมูลแค่ถูกแชร์ส่งไปเท่านั้นเอง เวลาเราพูดให้คนนึงฟัง ข้อมูลก็จะดังเท่าเดิมใช่มั้ย ไม่ได้เบาลงกว่าเดิม อันนี้หลักการแบบนั้น เป็นการสื่อข้อมูลกันแทน ฉะนั้น license หนึ่งอันก็จะลงคอมฯได้เครื่องเดียว หนึ่งแผ่นลงคอมฯหนึ่งเครื่อง อยากได้เพิ่มก็ไปซื้อเอามาใส่ อันนี้จะเป็นของ ออดิเนท จำหน่าย ไม่ใช่ของยามาฮ่าจำหน่ายนะ แต่คนที่ซื้อบอร์ด CL ไปเราจะแถมตัวนี้ให้หนึ่งแผ่น แถมให้ฟรีเลยนะ ไม่งั้นก็ไปซื้อเองประมาณ 100 ดอลล่าร์ ไม่แพงนะประมาณ 3 พันกว่าบาท บางช่วงก็เซลล์ลองไปดู ซึ่งตัวนี้จะใช้ผ่านระบบเน็ตเวิร์กระดับกิกะบิตเช่นกัน ตัวนี้ก็สามารถรองรับ DAW ด้วยนะ หรือว่า Digital Audio Workstation ที่รันบนตัว Nuendo หรือ Cubase มันสามารถทำงานได้สองทิศทาง ตัวมิกเซอร์สามารถสั่งให้คอมพิวเตอร์สามารถเรคอร์ดได้ด้วย
ส่วนระบบเน็ตเวิร์ก Redundant จะเป็นการเชื่อมต่อแบบสองพอร์ต ตัวแรกเราเรียกว่าพอร์ต Primary คือพอร์ตหลัก ส่วน Secondary คือพอร์ตสำรอง บางคนบอกไม่ใช่พูดผิด Primary แปลว่าปฐมภูมิ ส่วน Secondary ก็คือทุติยะภูมิ อันนั้นก็ใช่ ปฐมก่อนแล้วมาทุติ ซึ่งก็คือตัวหลักก่อนแล้วค่อยตัวรอง เมื่อพอร์ตหลักทำงานอยู่จู่ๆ มันหยุดทำงานปุ๊บ พอร์ตที่สองจะทำงานทันที ระบบนี้จึงจำเป็นต้องใช้ฮับสวิตช์ ซึ่งตัวสวิตช์ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งต้องใช้สองชุดมาต่อพ่วงกัน ซึ่งตัว Secondary จะแยกออกมาอีกวงนึง สีฟ้าคือเน็ตเวิร์ก Primary (ตามรูป) ส่วนเน็ตเวิร์กสีแดงจะเป็นของ Secondary ทั้งสองตัวนี้ทำงานพร้อมกันนะ ถ้าหากตัว Primary หลุด ตัว Secondary จะทำงานต่อเลย ผมจะวง เล็บไว้เลยว่าตัวนี้จะไม่เหมือนตัว CobraNet เลยนะ เพราะว่า CobraNet ใช้แค่วงเดียว ซึ่งก็คือ Primary วงเดียว อันนี้ต่อเข้าด้วยกันได้ แต่ตัว CobraNet จะมีตัวหนึ่งที่เรียกว่า Double Bandwidth คือมันใช้อีกพอร์ตนึงเนี่ยเพื่อไปทำให้ค่า Sampling rate ให้มันสูงขึ้น ตัวนั้นไม่ค่อยดีเท่า ไหร่ เพราะบางทีไปเสียบเส้นเดียว อย่างเสียงจากย่าน 20Hz-20kHz มันจะถูกหั่นออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกคือ 20Hz-1kHz ช่วงที่สอง 1kHz-20kHz นึกออกมั้ยครับ แบ่งครึ่ง ถ้าเราเสียบสายไปเส้นหนึ่งมันก็จะดังแค่ห้วงความถี่เดียว อันนี้ได้ยินเสียงครบใช่มั้ยตั้งแต่ 20Hz ก็จะได้ยินเสียง Low อย่างเดียว พอนึกออกมั้ย บางทีเกิดปัญหาแล้วแก้ยากเลยไม่ค่อยสะดวก ยิ่งถ้าเป็นงานไลฟ์มันทำงานด่วนๆ ไม่ทัน เราเนี่ยจะเครียดเอาแต่ว่าตัว Dante มันจะง่ายมากเราจะเช็คระบบได้ทั้งระบบเลย โดยใช้คอมพิวเตอร์ตรวจสอบ...
ส่วนรูปแบบตัว DVS เราจะรันเฉพาะบนตัว Primary เท่านั้น และตัว DVS ไม่สามารถต่อกับ Secondary เน็ตเวิร์กได้นะครับ เหตุผลเพราะคอมพิวเตอร์มันมีแค่พอร์ตเดียว ถามว่าถ้าไปเสียบ USB พอร์ตเพิ่มอีกได้มั้ย เสียบได้แต่ข้อมูลมันรับส่งไม่ได้ มันใช้แค่พอร์ตเดียว เพราะคอมพิวเตอร์มันบอกได้แค่นั้น เป็นพวกรักเดียวใจเดียวนะ (ฮา) ดังนั้นคอมพิวเตอร์มันจะเรคอร์ดได้เฉพาะกับ Primary เท่านั้น เราไม่สามารถจะไปต่อกับ Secondary ได้ แต่เราจะมีพีซีหลายๆ เครื่องเป็นหมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง แบบนี้ได้มั้ย ตอบว่าได้ ทำได้พร้อมกัน เราสามารถบัน ทึกพร้อมกันได้สองเครื่อง เพื่ออะไร เผื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เครื่องมันก็จะป้องกัน play safe ไง อย่างเครื่องนี้คอมพิวเตอร์มันน็อค หรือฮาร์ดดิสก์หยุดทำงาน แต่อีกเครื่องก็ยังรันอยู่ เข้าใจนะมันประมาณลักษณะนี้ ถ้าเป็นงานไลฟ์ซาวด์ก็สบายเลยรู้สึกแฮปปี้...