รู้เรื่องระบบ Dante ตอนที่ 1

บริษัท ไลท์ แอนด์ ซาวด์ บิสิเนส ขออนุญาตคัดลอกเอกสารที่ให้ความรู้ เกี่ยวกับระบบ Dante เพื่อเผยแพร่สู่ลูกค้าของบริษัท ผ่านทางบทความ ในเว็บไซต์นี้ เพื่อให้เป็นความรู้ และความเข้าใจในระบบ ของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อไป
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ระบบ Dante คืออะไร ใช้งานยังไง เสียงดีไหม ทำงานเสถียรหรือไม่ น่าเอามาใช้งานไหม แล้วการจะเซตอัพทำอย่างไร ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง มีความจำเป็นแค่ไหน ที่จะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบเน็ตเวิร์ก Dante
เน็ตเวิร์ก Dante เป็นระบบเน็ตเวิร์ก ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ออดิเนท (Audinate) ซึ่งบริษัทนี้อยู่ในออสเตรเลีย เน็ตเวิร์ก คืออะไร สำหรับเน็ตเวิร์ก Dante ก็คือเน็ตเวิร์กที่ Run บนสวิตช์ระดับกิกกะบิต เป็นการส่งข้อมูลแบบสองทิศทาง สายหนึ่งเส้นไม่ใช่วิ่งสัญญาณไปทางเดียว แต่รับส่งได้พร้อมกัน รองรับจำนวนแชนเนลได้สูงถึง 512 แชนเนล ซึ่งรูปโครงสร้างจะต้องใช้เน็ตเวิร์กที่เป็น 1 กิกกะบิตเท่านั้น ตัวระบบเน็ตเวิร์ก Dante จะเรียกว่าเป็นระบบ Fix Latency หมายถึงทุกๆ จุดนั้นมีค่า Latency เท่ากัน เพราะฉะนั้น เราต้องเช็คเน็ตเวิร์กของเราก่อนว่าเราใช้กี่ชั้น เราจึงต้องกำหนดตัว Latency โดยปกติอุปกรณ์แต่ละตัวมันจะมีค่า Latency เฉพาะในตัวมันอยู่แล้ว แต่ว่าตัวนี้จะสามารถเซตได้ทั้งระบบว่าจะให้ค่า Latency วิ่งที่ค่าเท่าไหร่
ส่วนความพิเศษของระบบ Dante จะมีสิ่งพิเศษอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Automatic Discovery ในกรณีที่เสียบสายมันจะช่วยหาว่าในระบบเน็ตเวิร์กมีใครอยู่บ้าง แล้วตัวเครื่องในระบบก็จะแจ้งว่าฉันชื่อคนนี้ ฉันชื่อคนนั้น เหมือนเราขานชื่อเรียกกัน ก็ขานชื่อบอกฉันเป็นใคร อยู่ตรงไหน อันนี้เรียกว่าระบบเน็ตเวิร์ก Discovery ซึ่งระบบ IP ก็ยังมีการ Redundant ตัวเองได้ด้วย คือทีนี้ในระบบเน็ตเวิร์ก Dante เขาจะมีฟังก์ชั่นนึงที่เรียกว่า Redundant ตัว Redundant ในระบบอื่นๆ เวลาอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านมันจะมีการสะดุดนิดนึง คือบางคนอาจจะไม่สังเกตแต่คนที่ทำน่ะรู้ แต่ระบบนี้จะไม่เป็น สำหรับเรื่อง เวิร์ดคล็อค ตัวนี้จะเลือกออโตเมติกได้ หากตัวแม่ล่มมันจะหาตัวต่อไปโดยอัตโนมัติ คือทำ นองหาประธานคนต่อไปรอไว้ ซึ่งจะมีข้อดีคือระบบจะไม่ล่ม เพราะหลายๆ ระบบถ้าเวิร์ดคล็อคหาย เสียงหายด้วยถูกมั้ย ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบเสียง ระบบดิจิตอลทั่วไป ในส่วนของค่า Latency จะตั้งได้ต่ำถึง 0.5ms ค่า 1 ms นานแค่ไหน แล้ววินาทีนึงกี่ Sec ก็คือ 1 Sec ถ้า 1 ms ก็คือ 1/1000 วินาที นานมั้ย ไม่มีความรู้สึกนะ เพราะฉะนั้นตัวนี้ค่อนข้างที่จะเร็วมาก ดังนั้น 0.5ms หรือครึ่งของ ms นะครับ ตัวระบบ Dante เน็ตเวิร์กยังรองรับระบบที่เรียกว่า Virtual Sound Card ต่อไปนี้เราไม่จำเป็นต้องไปเสียบฮาร์ดแวร์ซาวด์การ์ดอีกแล้ว เราสามารถทำให้คอมพิว เตอร์เครื่องนึงกลายเป็นซาวด์การ์ดได้ด้วย โดยไม่ต้องเสียบฮาร์ดแวร์ ก็คือใช้อินเตอร์เน็ตที่เรามีอยู่ได้เลย
.png)
ตัวเน็ตเวิร์ก Dante เวลาใช้จะต้องใช้เชื่อมต่อผ่านสวิตช์กิกกะบิตเท่านั้น โครงสร้างการเชื่อมต่อจะมีรูปแบบหลายลักษณะ ตัวสวิตช์กิกะบิตหนึ่งตัวก็จะมีค่า Latency หรือค่าหน่วงทางเวลาให้ช้าลงประมาณ 250 micro sec เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้สวิตช์สักประมาณ 5 ตัว ก็จะเป็น 300 ถึง 500 micro sec หรือ 1ms สำหรับสวิตช์ 10 ตัว เน็ตเวิร์กที่ทำเราอาจจะกลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้นโดย Run อยู่ที่ประมาณ 5 ms ระยะความห่างของเสียง สองเสียง ประมาณ 50 ms ที่หูคนเราฟังออก อันนี้แค่ 5 ms คิดเป็น 10 เท่า ระดับนี้แยกไม่ออกเลยนะ ขนาด Run บน safe mode ด้วยนะ ในการส่งข้อมูลในระบบ Dante จะสามารถส่งข้อมูลได้หลายๆ ชุดพร้อมกัน แล้วก็มีคนรับพร้อมกันหลายๆ คน ซึ่งในรูปแบบการส่งจะมี 2 ลักษณะคือแบบ Unicast และแบบ Multicast อันนี้ผมจะให้นิยามคำเหล่านี้ก่อน เพราะหลายคนทำระบบออดิโอเน็ตเวิร์กแล้ว “งง” Unicast คืออะไรครับ...? Multicast คืออะไรครับ...? ปกติเวลาส่งข้อมูล ในส่วนของปลายทาง ถ้าเป็น Unicast ก็จะเป็นการส่งทิศทางเดียว ในกรณีที่เป็นแบบ Unicast ก็จะเป็นแบบสายเส้นเดียวแต่วิ่งไปสองที่ ถ้าเป็นแบบ Multicast สายเส้นเดียวก็จะวิ่งไปทุกจุด ต้องบอกว่าหลายๆ จุด เช่น เราประกาศอยู่ที่อาคารนึง แต่ว่าจ่ายไปอาคาร 2-3-4-5 เราอาจจะมี 10 อาคารแต่เราไปแค่ 5 อาคารไง อีก 6-8-9-10 เราไม่กระจายข้อมูลไป อันนี้จะเป็นลักษณะของ Multicast ในรูปแบบถัดมา เดี๋ยวมีเรื่องในช่วงท้ายๆ จะพูดถึง Unicast และ Multicast กันอีกรอบนึง...
ในส่วนของระบบเน็ตเวิร์ก Dante ทุกวันนี้เริ่มมีคนมาใช้ระบบ Dante มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ วัน เนื่องจากความง่ายและความเสถียรของระบบ อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ของ ยามาฮ่า ที่ออกมาก็รองรับระบบ Dante ด้วย รวมทั้งระบบของ M7, MTX, MRX พวกอุปกรณ์ ยามาฮ่า ที่ลงท้ายด้วยตัวD ทั้งหลายนั้น รองรับเน็ตเวิร์ก Dante หมด รวมทั้งการ์ดที่เป็นของ ออดิเนท เอง เขาทำการ์ดขายด้วยนะครับ สามารถใช้งานร่วมกับบอร์ดยามาฮ่าได้ทุกตัว ที่เป็นรุ่นใหม่ๆ นะ สำหรับรุ่นเก่าๆ จะเสียบไม่ได้นะ แค่หาที่เสียบการ์ดยังไม่เจอเลย (ฮ่าๆ) กับ NEXO เขาก็ทำการ์ดออกมาเหมือนกัน หมายความว่าเราใช้แอมป์ของ NEXO แล้วเอาการ์ดนี้ไปเสียบที่แอมป์ แล้วสัญญาณเสียงวิ่งผ่านสายเคเบิล CAT ไปที่ตัวแอมป์ได้โดยตรง ไม่ต้องไปแปลงเป็นอะนาลอกเลย พอจะนึกภาพออกมั้ย เพราะฉะนั้นเราสามารถอยู่ห่างจากมิกเซอร์ได้ไกลมากเป็นร้อยเมตร ไม่ต้องไปดึงสายอะนาลอกมาต่อยาวๆ แล้วสายเคเบิลพวกนี้มันไม่มีการสูญเสียแบบอะนาลอกอีกด้วย ในส่วนของซอฟต์แวร์ทาง ออดิเนท ก็ทำขึ้นมาซัพพอร์ตเขาเรียกว่า Dante Controller หน้าที่ของเจ้า Controller มีหน้าที่ติดตาม ควบคุมและแก้ไขระบบ เนื่องจากว่าระบบนี้มันรันอยู่ในระบบเน็ตเวิร์กซึ่งเรามองไม่เห็นใช่มั้ย เราจะเข้าไปดูได้ก็ต้องดูผ่านโปรแกรมตัวนี้ ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นฟรีแวร์เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ถ้าเราดาวน์โหลดโปรแกรมตัวนี้มาติดตั้ง เราก็จะสามารถตรวจสอบระบบได้ ซึ่งตัวนี้ฟรีนะครับ โหลดได้ที่เว็บไซต์ audinate.com ถ้าเป็นระบบพีซีจะ ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมที่ชื่อว่า Apple Bonjour ต้องโหลดไดรเวอร์ตัวนี้เข้าไปด้วย คือเฉพาะพีซีอย่างเดียว ส่วนแมคฯไม่ต้อง แมคฯเขามีมาอยู่แล้ว ตัวนี้เขาใช้พอร์ต Ethernet นะไม่ใช่พอร์ต USB ก็คือพอร์ต LAN ที่เราใช้กันทั่วไป