ระบบเสียงประกาศแบบดิจิตอล
1. ความต้องการทั่วไป
ผู้เสนอราคาจะต้องจัดหาผลิตภัณฑ์ ในส่วนประกอบมาตรฐานของระบบเสียงประกาศ เช่น ไมโครโฟนประกาศ (Call Station Microphone),ชุดจัดการ (Network Management), เครื่องขยายเสียง(Amplifier),ลำโพง(Speaker), และเครื่องควบคุมความดัง (Volume Control) เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียวกันทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายระบบในอนาคต
และเพื่อประโยชน์สำหรับโครงการ ที่จะได้สินค้ารุ่นล่าสุดและได้รับบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ รวมถึงการสำรองอะไหล่ ผู้เสนอราคาต้องได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการดังกล่าว
จำนวนอุปกรณ์ในระบบที่ระบุไว้ในแบบเป็นเพียงแนวทางซึ่งแสดงชนิดและจำนวนขั้นต่ำของอุปกรณ์ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เพื่อกำหนดวิธีการในการออกแบบ และเลือกอุปกรณ์เพื่อการเสนอราคาเท่านั้น บางจุดที่จำเป็นต้องจัดหาติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อให้งานระบบเสียงประกาศเรียบร้อยสมบูรณ์ และเป็นไปตามหลักวิชาการ ผู้เสนอราคาจะต้องออกแบบและแสดงรายละเอียดจำนวนอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมใบเสนอราคา
ผลิตภัณฑ์ที่อนุมัติให้ใช้ Bosch, Australlian Monitor, Dynacord
2. วัสดุและอุปกรณ์
ผู้รับจ้างจะต้องนำเสนออุปกรณ์ที่เป็นของใหม่ต้องไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน โดยจะต้องนำเสนอให้ผู้ว่าจ้างอนุมัติก่อนการติดตั้ง โดยเปรียบเทียบรายละเอียดของอุปกรณ์ที่นำเสนอ กับคุณสมบัติทางเทคนิคตามรายการผู้ว่าจ้าง อุปกรณ์ที่อยู่ในห้องควบคุม ต้องมีลักษณะเหมาะสมในการติดตั้งในตู้แร็คมาตรฐาน 19 นิ้ว ด้านหน้ามีฝาเปิด-ปิดแบบใส(ถ้าจำเป็น) มีพัดลมระบายความร้อนและมีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษา ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาติดตั้ง และทดสอบระบบจนสามารถทำงานได้
เพื่อความคมชัดของเสียงและความแน่นอนเชื่อถือได้ของระบบควบคุม สายที่ใช้ในการการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในตู้แร็คจึงเป็นสายไฟเบอร์ออฟติคและให้สายที่ต่อออกไปยังไมโครโฟนประกาศเป็นได้ทั้งสายไฟเบอร์ออฟฟติค หรือสายUTP ชนิด CAT 5(ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมหน้างาน) ซึ่งระบบเสียงจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. เครื่องเล่น DVD
2. เครื่องเล่น SD /USB /Tuner
3. ไมโครโฟนประกาศ (Call Station Microphone)
4. ชุดจัดการระบบ (Network Manager)
5. เครื่องขยายเสียง (Amplifier )แบบโวลท์ไลน์
6. ลำโพงชนิดติดเพดาน (Ceiling Loudspeaker) ,ลำโพงตู้ (Cabinet LSP), ลำโพงคอลั่ม(Column LSP), ลำโพงซาวด์โปรเจคเตอร์(Sound Projector LSP) และลำโพงฮอร์น (Horn LSP)
7. ตัวควบคุมความระดับความดังเสียง (Volume Control)
8. ซาวด์มอนิเตอร์ (Sound Monitor)
3. การทำงานเบื้องต้นของระบบประกาศ
ระบบเสียงประกาศต้องประกอบด้วย เสียงประกาศจากสถานีประกาศ และเสียงที่มาจากแหล่งกำเนิดอื่น (Background Music(BGM)) ซึ่งระบบเสียงประกาศนี้ต้องสามารถควบคุมการประกาศ ในแต่ละโซนได้โดยอิสระ และในกรณีที่มีการประกาศจากสถานีประกาศหรือการประกาศผ่านข้อความที่บันทึกไว้ในโซนใดๆ ก็ตาม เสียง BGM จะต้องหายไปเฉพาะโซนที่มีการประกาศเท่านั้น
4. คุณสมบัติทางเทคนิคของอุปกรณ์ในระบบเสียง
4.1 เครื่องเล่นดีวีดี (รุ่นทั่วไปตามท้องตลาด)
- สามารถเล่นแผ่นได้อย่างน้อยดังนี้ DVD, DVD-R, CD, CD-R, VCD
- สามารถบันทึกไฟล์ลงในอุปกรณ์ USB ได้
- ตัวแปลงสัญญาณภาพดิจิตอลเป็นอนาล็อก 12 บิต/108MHz
- สามารถเล่นไฟล์ MP-3, JPEG ได้
- มีช่องต่ออิน/เอาต์อย่างน้อยดังนี้ Composite Video Output , Audio, USB , HDMI
- สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยรีโมทไร้สาย
4.2 เครื่องเล่น SD Card SD /USB /Tuner (PLE-SDT)
- การเล่นไฟล์ MP3 จากการ์ด SD และอุปกรณ์เสียบช่อง USB
- จูนเนอร์ FM มาพร้อมกับ RDS ที่ตั้งค่าล่วงหน้าและควบคุมด้วยดิจิตอล
- เล่นไฟล์จากการ์ด SD/USB Memory และจูนเนอร์ FM ได้พร้อมกัน
- มีเอาต์พุตสำหรับแหล่งสัญญาณดิจิตอลและจูนเนอร์ FM แยกกัน
- ใช้ได้กับไฟฟ้า 220 โวลท์เอซี 50/60 เฮิรตซ์
- ภาครับวิทยุ
- ความเพี้ยนไม่เกิน 1%
- มีช่วงรับสัญญาณ เอฟเอ็ม 87.5-108 เมกกะเฮิรตซ์
- ผลตอบสนองความถี่ 50 – 12,000 เฮิรตซ์
- อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 50 dB.
- มีความไวในการรับสัญญาณเอฟเอ็ม 2 ไมโครโวลท์ (ที่สัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 26 เดซิเบล)
- มีความไวในการรับสัญญาณเอเอ็ม 30 ไมโครโวลท์ (ที่สัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 20 เดซิเบล)
- ภาคการเล่นจาก SD Card/USB Memory
- จำนวนเพลงสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 1000 เพลง
- ผลตอบสนองความถี่ 50 – 20,000 เฮิรตซ์
- อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 70 dB.
4.3 ไมโครโฟนประกาศ (Call Station Microphone) (PRS-CSR)
- ต้องมีไฟแสดงการเปิดใช้งานและกรณีเกิดความบกพร่อง
- ต้องมีปุ่มกดแบบ push-to-talk ปุมกดคางเพื่อพูด
- ต้องมีช่องเสียบ Head set พร้อม Volume Control เพื่อปรับความดังของ Head set ได้ และเมื่อต่อ Head set เข้ากับตัวไมโครโฟน จะทำการตัดเสียงไมโครโฟนทันที
- มีระบบ Speech Filter เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และป้องกันการตัดสัญญาณ Audio input ในย่านความถี่ต่ำ
- มีระบบแปลงสัญญาณเสียงอนาล็อกเป็นดิจิตอลและ DSP ในตัว
- สามารถต่อเข้ากับ Call Station Keypad (ตัดกดเลือกโซน) ได้ไม่น้อยกว่า 16 ตัว
- สามารถกำหนดลำดับความสำคัญได้ไม่น้อยกว่า 224 ระดับ
- ระดับสัญญาณเสียงเข้าไม่น้อยกว่า 75 dB.
- อัตราสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนไม่น้อยกว่า 60 dB.
- ผลตอบสนองความถี่ 340 Hz ถึง 14 kHz หรือดีกว่า
- ระดับความดังเสียงลำโพงไม่น้อยกว่า 85 dB.
- สามารถทำงานในช่วงอุณหภูมิ -5 ถึง 45 องศาเซลเซียสได้
- ต้องได้รับมาตรฐานไม่น้อยกว่า EN 55103-1, IEC 60849 และมาตรฐานความปลอดภัย EN60065
Keypad สำหรับเลือกการประกาศ (LBB4432/00)
- มีปุ่มกดทั้งหมด 8 ปุ่มเหมาะสมสำหรับการตั้งค่าการประกาศในระบบ เช่น การเลือก BGM เข้ามาในระบบ และสามารถปรับเพิ่ม/ลดเสียงได้จาก Keypad
- แผงสำหรับการเลือกโซนประกาศ ต้องมี LEDในการแสดงผล
- มีปุ่มซึ่งสามารถกำหนดลำดับความสำคัญ ( Priority ) โดยการประกาศแบบธรรมดาจะมีความสำคัญระดับหนึ่ง ถ้าประกาศแบบฉุกเฉินจะมีลำดับความสำคัญสูงกว่าการประกาศแบบธรรมดา
4.4 ชุดจัดการระบบ (Network Manager) (PRS-NCO-B)
ชุดควบคุมระบบนี้ต้องสามารถควบคุมเสียงถึง 28 ช่องทาง, จ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ย่อยตัวอื่น, รายงานความผิดปกติและควบคุมการทำงานของระบบ การรับ Audio Input จะมาจาก Call Station Microphone (ไมโครโฟนประกาศ), Background Music หรือ Local Audio Input
Network Manager ต้องสามารถทำงานได้ทั้ง Stand-alone หรือต่อเข้ากับ PC เพื่อทำการกำหนดค่า parameter, ดูสถานะ การเปลี่ยนแปลงระบบด้วย configuration and diagnostic & logging software
การติดตั้งสามารถทำได้แบบตั้งโต๊ะหรือ ติดเข้ากับ 19” Rack และมีฟังก์ชั่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
- มี 4 analog audio input ซึ่ง 2 input แรกสามารถเลือกได้ให้เป็น Microphone หรือ Line และ 2 input หลังจะเป็น line input เท่านั้น
- มี 8 Control input ซึ่งสามารถโปรแกรมให้ทำงานได้อย่างอิสระได้ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะให้ทำอะไรรวมถึงกำหนดลำดับ ความสำคัญ (Priority)
- มี 4 analog audio line output
- Audio line output สามารถที่จะเลือกสัญญาณตรวจสอบ (Monitoring) 20 kHz ได้
- Control output สามารถโปรแกรมได้อย่างอิสระสำหรับ Faults และการประกาศ (Call)
- สามารถรองรับได้ถึง 61 Nodes ใน Redundant ring network
- สามารถรองรับได้ถึง 256 Priorities และ 248 โซน
- หน้าจอแสดงตัวอักษร 2x16 LCD display การเข้าถึงเมนูแบบ Rotary control
- สามารถเก็บ 200 Fault messages ล่าสุด
- มีช่องเสียบ Flash memory card ซึ่งมีไว้สำหรับ Pre-recorded audio messages ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกใช้ขนาดความ จุของ Flash memory card ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน
- สามารถเล่นได้ถึง 4 Messages พร้อมกัน Audio messages ซึ่งอยู่ในรูปของ wav file สามารถ download จาก คอมพิวเตอร์ผ่าน Ethernet link
- สามารถที่จะตรวจสอบสถานะ ของอุปกรณ์ทุกตัวในระบบและรายงานสถานะ การเปลี่ยนแปลงให้ทราบ
- สามารถตรวจสอบ Microphone capsule ของ Call Station Microphone และรายงานหากเกิดการผิดปกติขึ้น
- สายเคเบิลจากภายนอกที่ต่อเข้ากับ Control inputs สามารถตรวจสอบการ Short และ Open circuits ได้
- Attention และ Alarm tone จะถูกบันทึกไว้ใน Network Manager ซึ่ง Tone สามารถเรียกใช้ได้จาก Call Station หรือ Control inputs สำหรับการประกาศปกติ หรือการประกาศ Alarm
- มี Real time clock ภายใน
- มีส่วนที่เป็นการประมวลทางด้านเสียง สำหรับ Audio input และ Audio outputs ซึ่งค่า Parametric equalization, limier และ อัตราขยายสามารถปรับได้โดย configuration software
- มี 8 คอนโทรลขาเข้า 5 คอนโทรลขาออก
- 2 x 16-character LCD display
- สามารถใช้ไฟ 220VAC 50 Hz ได้
- มีผลตอบสนองความถี่ 20 Hz to 20 kHz (-3 dB) หรือดีกว่า
- สามารถทำงานในช่วงอุณหภูมิ -5 ถึง 55 องศาเซลเซียสได้
- ต้องได้รับมาตรฐานไม่น้อยกว่า EN 55103-1, IEC 60849 และมาตรฐานความปลอดภัย EN60065
4.5 เครื่องขยายเสียงแบบโวลท์ไลน์ (Amplifier) (PRS-1P500, PRS-2P250, PRS-4P125, LBB4428/00)
- มีกำลังขับ ตามที่ได้ระบุไว้ในแบบที่แนบ
- มีการประมวลผลสัญญาณแต่ละช่องแยกจากกันอย่างอิสระ
- มีฟังก์ชั่นการตรวจสอบเครื่องขยายและการสลับการทำงานไปยังเครื่องขยายสำรอง
- มีหน้าจอแสดงผลแบบ 2 x 16-character display LCD
- มีช่องเสียบหูฟัง และ VU มิเตอร์
- มีช่องต่อสัญญาณเสียง 2 อินพุท
- มีระดับแรงดันช่องสัญญาณออก 100V/70V/50V
- มี Control Output ไม่น้อยกว่า 1 Outputs
- มี Control Input ไม่น้อยกว่า 6 Inputs
- สามารถต่อไมโครโฟนสำหรับตรวจสอบสัญญาณรบกวนจากแหล่งประกาศเสียงได้
- สามารถต่อสัญญาณเสียงจากภายนอกเข้าสู่ระบบผ่านเครื่องขยายเสียงได้ และสามารถควบคุมได้จากชุดควบคุมกลางระบบเสียง
- มีระบบรองรับการตรวจเช็คการลัดวงจรหรือขาดของสายลำโพง
- สามารถวางตำแหน่งของ Power Amplifier ไว้ที่ตำแหน่งที่ห่างไกลจากชุดควบคุมกลางระบบเสียงได้โดยโครงการนี้อยู่ในพื้นที่ เดียวกัน
- ช่องต่อสัญญาณเสียงขาเข้าแบบ LINE มีคุณสมบัติดังนี้
ช่วงสัญญาณขาเข้าอยู่ระหว่าง -6 dB ถึง 6 dB
ช่วงการตอบสนองความถี่ : -3 dB ที่ 50Hz and 20kHz(+/-1 dB)
อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน : มากกว่า 87 dBA
CMRR : มากกว่า 40 dB
ค่าความต้านทานขาเข้า : 22 k ohms
- ช่องต่อสัญญาณไมโครโฟนสำหรับตรวจสอบ มีคุณสมบัติดังนี้
มีระดับสัญญาณอยู่ในช่วง -7 dB ถึง +8 dB
ช่วงการตอบสนองความถี่ : -3 dB ที่ 100Hz and 16kHz(+/-1 dB)
อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน : มากกว่า 62 dBA
CMRR : มากกว่า 40 dB
- ช่วงการตอบสนองความถี่ 60 Hz ถึง 19 kHz (-3 dB)
- อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน : มากกว่า 85 dB
- การ Crosstalk ระหว่าง แอมป์ แต่ละช่อง : น้อยกว่า 80 dB
- ความเพี้ยนรวมของสัญญาณฮาร์โมนิค (THD) : น้อยกว่า 0.3% (ที่ 1 kHz)
- ต้องได้รับมาตรฐานไม่น้อยกว่า EN 55103-1, IEC 60849 และมาตรฐานความปลอดภัย EN60065
4.6 ลำโพงชนิดติดเพดาน (Ceiling Loudspeaker) (LHM0626/00)
เป็นลำโพงติดเพดานขนาด 6 นิ้ว
กำลังงาน 6 วัตต์ สามารถเลือกปรับได้ (6 - 3 -1.5-0.75 วัตต์)
มีระดับความดัง(ที่ 6 วัตต์/1 วัตต์) 99/91 เดซิเบล (ที่ 1 กิโลเฮิรตซ์, 1 เมตร)
ช่วงตอบสนองความถี่ 70 เฮิรตซ์ ถึง 18 กิโลเฮิรตซ์
มุมเปิดของเสียง (1kHz, -6 ดีบี) 160 องศา
อัตราแรงดันไฟ 100 โวลต์
อัตราความต้านทาน 1667 โอห์ม
มาตรฐานความปลอดภัย EN 60065
ช่วงอุณหภูมิใช้งาน -25 ถึง +55 องศาเซลเซียส
ลำโพงตู้ (Cabinet Loudspeaker) (LB1-UW06-D)
เป็นลำโพงตู้ขนาด 6 วัตต์ สามารถเลือกปรับได้ (6 - 3 -1.5 วัตต์)
ระดับความดังที่ 1 W at 1KHz, 1m 99 / 91 เดซิเบล
ช่วงตอบสนองความถี่ 180 เฮิรตซ์ ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์
มุมเปิดของเสียง (1KHz / 4kHz, -6 dB) 165 องศา / 95 องศา(H), 158 องศา / 73 องศา (V)
อัตราแรงดันไฟ 100 โวลต์
อัตราความต้านทาน 1667 โอห์ม
มาตรฐานความปลอดภัย EN 60065
ช่วงอุณหภูมิใช้งาน -25 ถึง +55 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์ <95%
ลำโพงคอลั่ม (Column Loudspeaker) (LA1-UW24-D)
เป็นลำโพงขนาด 24 วัตต์ สามารถเลือกปรับได้ (24 - 12 -6 วัตต์)
ระดับความดังที่ 1 W. at 1kHz, 1m. 110 / 96 เดซิเบล
ช่วงตอบสนองความถี่ 165 เฮิรตซ์ ถึง 16 กิโลเฮิรตซ์
มุมเปิดของเสียง (1KHz / 4kHz, -6 dB) 190 องศา / 88 องศา(H), 30 องศา / 8 องศา (V)
อัตราแรงดันไฟ 100 โวลต์
อัตราความต้านทาน 417 โอห์ม
มาตรฐานความปลอดภัย EN 60065
ช่วงอุณหภูมิใช้งาน -25 ถึง +55 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์ <95%
ลำโพงซาวด์โปรเจคเตอร์ (Sound Projector Loudspeaker) (LBC3094/15)
เป็นลำโพงขนาด 10 วัตต์ สามารถเลือกปรับได้ (10 - 5 -2.5 วัตต์)
ระดับความดังที่ 1 W. at 1kHz, 1m. 102 / 92 เดซิเบล
ช่วงตอบสนองความถี่ 140 เฮิรตซ์ ถึง 13 กิโลเฮิรตซ์
มุมเปิดของเสียง (1KHz / 4kHz, -6 dB) 160 องศา / 70 องศา
อัตราแรงดันไฟ 100 โวลต์
อัตราความต้านทาน 1000 โอห์ม
มาตรฐาน EN 60529, IP63
ช่วงอุณหภูมิใช้งาน -25 ถึง +55 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์ <95%
ลำโพงฮอร์น (Horn Loudspeaker) (LBC3470/00)
กำลังงาน 15 วัตต์ สามารถเลือกปรับได้ (15 – 7.5 – 3.75 วัตต์)
มีระดับความดังที่ 1 W at 1KHz, 1m 103 เดซิเบล
ช่วงตอบสนองความถี่ 500 เฮิรตซ์ ถึง 5 กิโลเฮิรตซ์
มุมเปิดของเสียง (1KHz, -6 dB) 130 องศา / 50 องศา
อัตราแรงดันไฟ 100 โวลต์
อัตราความต้านทาน 667 โอห์ม
มาตรฐานความปลอดภัย EN 60065
4.7 ตัวควบคุมความระดับความดังเสียง (Volume Control) (LBC1402/10 ,LBC1412/10, LBC1420/10)
กำลังงาน 12 , 36 หรือ 100วัตต์ (ตามความเหมาะสม)
แรงดันขาเข้า 100 โวลต์
ช่วงตอบสนองความถี่ 50 เฮิรตซ์ ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์
ความเพี้ยน <0.5%
กินกระแส 20 มิลลิแอมป์ ที่ 24 โวลต์กระแสสลับ
ความชื้นสัมพัทธ์ <95%
มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตราฐาน EN60065
4.8 ซาวด์มอนิเตอร์ (Sound Monitor) (AP-9812M ยี่ห้อ AVPRO)
ในระบบเสียงที่นำเสนอต้องมีซาวด์มอนิเตอร์ เพื่อให้ห้องควบคุมสามารถเช็คสัญญาณเสียงที่ปล่อยไปยังลำโพงในแต่ละโซนได้ โดยที่ตัวเครื่องต้องมี อินพุทเป็น 100โวลท์ไลน์ , มีสวิตซ์เลือกช่อง , มีวอลลุ่มคอนโทรล และสามารถติดตั้งในตู้แร็ค 19 นิ้วได้
การติดตั้งและทดสอบระบบ
การติดตั้ง เดินท่อ ร้อยสาย และการใช้อุปกรณ์ประกอบตามที่แสดงไว้ในแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้งของการไฟฟ้า สายไฟฟ้าที่ใช้ให้เป็นไปตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
การทดสอบ ให้ทดสอบการทำงานของระบบฯ ตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตและตามที่ผู้ว่าจ้างเห็นสมควร โดยมีผู้แทนของผู้ว่าจ้างเข้าร่วมการทดสอบด้วย