รู้เรื่องเครื่องเสียง
เครื่องเสียงกลางแจ้ง คือ อุปกรณ์ทุกอย่าง ทุกชนิด ที่ก่อให้เกิดเสียง ประกอบไปด้วย
1.ลำโพง(ที่มีอัตราทนกำลังสูง)
2.เพาเวอร์แอมป์ (เครื่องขยายสัญญาณ)
3.มิกเซอร์ (เครื่องผสมสัญญาณเสียง)
4.อีควอไลซ์เซอร์ (Graphic Equalizer)
5.เครื่องเล่นซีดี (CD Player)
6.ไมโครโฟน (Microphone)
7.ระบบเสียงกลางแจ้ง ลำโพงกลางแจ้ง ทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่องเสียงที่มีคำว่ากลางแจ้ง น่าจะเป็นเป็นคำศัพท์ที่คนไทยคิดกันขึ้นมาเองอันเนื่อง กิจกรรมกลางแจ้งที่เน้นความดัง สำหรับคนหมู่มากหรือจำนวนมากๆเป็นหลักแน่
คำว่ากลางแปลงให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ระบบเสียงกลางแจ้งนั้น ต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม ต่อสู้กับผู้คน มากมาย
PA Sound Systems (Public Address Sound Systems)
ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ อันนี้ก็แปลว่าระบบเสียงกลางแจ้งได้เหมือนกัน แต่ถ้านับกันแบบหมัดต่อหมัดSound Reinforcement กับ PA Sound Systems
Sound Reinforcement
จะมีความหมายไปในทาง Live Sound (การแสดงสด) เสียมากกว่า ซึ่งเป็นระบบที่เน้นไมโครโฟนจำนวนมากๆ แอมป์กำลังสูง ลำโพงจำนวนมาก เพื่อให้ได้ความดังรวม หรือ dB SPLมากๆ ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือให้เสียงที่เป็น Hi- Fi หรือสมจริงอีกด้วย ลำโพงอาจจะเป็น 2ทาง 3ทาง 4ทาง ที่ต้องมีครอสโอเวอร์แยกความถี่ให้ หลายๆบริษัท จะเรียกระบบเสียงแบบนี้ของตนเองว่า
หลายๆบริษัทผู้ผลิตระบบเสียง จะให้คำนิยามผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่ว่า จะเป็นระบบเสียงตามสาย ลำโพงฮอร์น หรือพูดให้เห็นภาพ คือ ระบบเสียง ไรก็ตาม ระบบเสียงที่ดี ไม่จำเป็นต้องดัง และเสียงดังก็ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตเสมอไป… แล้วในระบบเสียงกลางแจ้งมันต้องมีอะไรบ้าง?
เวทีใหญ่และกว้างมาก จำนวนลำโพงซึ่งจะวาง หรือตั้ง หรือแขวนเรียงกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นลำโพงที่หันหน้าออกกหาคนดู ลำโพงที่หันหน้าไปหานักดนตรี ก็ล้วนแต่ใบใหญ่และมีจำนวนมากตามไปด้วย ใต้นั่งร้านมีแอมป์ กลางสนามยังมีครื่องผสมสัญญาณเสียงหรือ Audio mixer ที่ตัวใหญ่มากๆ มี EQวางเต็มแร็คเลย จอไฟติดแน่นพรึ่บไปหมด สีเขียว สีเหลือง สีแดง
1.เครื่องผสมสัญญาณเสียงหรือ Audio Mixer
ถามว่าทำไมมันต้องตัวใหญ่ขนาดนั้น ก็เพราะมันใช้กับไมโครโฟนจำนวนมากนั่นยังไง 32ช่อง 48ช่อง 56ช่อง แล้วช่องสัญญาณขาออกก็ยังต้องมีจำนวนมากด้วย เพื่อส่งไปยังลำโพงหลัก ลำโพงนักดนตรี ระบบบันทึกเสียง หรือระบบถ่ายทอดเสียงด้วยเช่นกัน
ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องดนตรี โดยมาก แบ่งเป็น 2 ชนิด
-แบบใช้กระแสไฟฟ้าเลี้ยง(+48V.) เราเรียกว่า คอนเดนเซอร์ไมค์
-แบบไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเลี้ยง เรียกว่า ไดนามิคไมค์
จำนวนไมโครโฟน นับจากชิ้นของเครื่องดนตรี ที่จะต้องจ่อ เช่นกลองใช้ไมค์ 8 ตัว นักร้อง 4 คน เครื่องเคาะ 4 ตัว กีตาร์ไฟฟ้า 2 -3 ตัว เครื่องเป่า 4-6 ตัว
ในงานเครื่องเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ อาจเอาไว้เปิดเพลงเพื่อทดสอบระบบ หรือเอาไว้เปิด Backing Track ก็ได้เช่นกัน มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน ขอแนะนำเป็นรุ่นที่ DJ ใช้จะดีมาก เพราะรวดเร็วทันใจ
ซึ่งจะเป็นแบบ Graphic EQ ที่มี31Band (31ก้านปรับ) แต่จะเห็นว่า มันไม่ได้มีแค่1ตัว มันมี 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว มากน้อยตามจำนวนลำโพงหลักที่หันหาคนดู และลำโพงที่ป้อนให้กับนักดนตรีบนเวที
คืออุปกรณ์เพิ่ม ลด และแบ่งความถี่ ให้เหมาะสมกับแอมป์และลำโพง ซึ่งในระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ มีลำโพงอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น ลำโพงเสียงต่ำ(Sub woofer) ลำโพงเสียงทุ้ม(Low) ลำโพงเสียงกลาง(Mid) และลำโพงเสียงแหลม(Hi) ซึ่งจะเห็นว่า มี4ทางเข้าไปแล้ว บางยี่ห้อภายในอุปกรณ์ตัวนี้ยังประกอบไปด้วย 31 Band EQ,Delay และ Limiter ป้องกันลำโพงด้วยก็มี มากกว่านั้น บางผู้ผลิตยังสามารถสั่งงานผ่านทาง ระบบควบคุมแบบไร้สายได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกล บางรุ่นเน้นน้ำหนักเบา บางรุ่นเน้นกำลังขับมหาศาล จำนวนแอมป์ในระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ นับตามจำนวนลำโพง หรือจำนวนคอลัมน์ที่แขวนใช้งานจริง เช่น ลำโพง Low Mid Hi ใช้แอมป์ 3 ช่อง แต่มีการแบ่ง เป็นชุด ยิงไกล ยิงกลาง ยิงใกล้ จำนวนยังจะเพิ่มมากไปอีกตามจำนวนลำโพงมอนิเตอร์ของนักดนตรี Stage monitor ถูกกำหนดด้วย จำนวน Aux send จาก Mixer ด้วยเช่นกัน
งานระบบเสียงกลางแจ้งขนาดใหญ่นั้น ลำโพงต้องมีความดังมหาศาล เพื่อต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม และเสียงรบกวนพื้นฐาน ในยุคปัจจุบัน แต่ละบริษัทต่างแข่งขันในการผลิตลำโพงที่มีขนาดเล็กลง กินวัตต์น้อยลง แต่ให้ความดังที่มากขึ้น รวมทั้งพยายามที่จะทำให้ผู้รับฟังได้รับฟังเสียงที่มีความดังสม่ำเสมอ หรือใกล้เคียงกันอีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีของลำโพงที่เรียกว่า Line Array เป็นต้น หลักการคร่าวๆคือ การแขวนลำโพงยาวเป็นแถว ลักษณะตัว J ลำโพงใบด้านบน ยิงไปพื้นที่ไกลสุด ใบกลางยิงไปกลางพื้นที่ และใบล่างยิงพื้นด้านหน้าเวที